โซดาไฟคืออะไร


แชร์ให้เพื่อน :

Last Updated on March 7, 2024 by admin02

 

ลักษณะของโซดาไฟเกล็ด
โซดาไฟเกล็ด

โซดาไฟคืออะไร

โซดาไฟ เป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ชื่อว่า โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium hydroxide) มีสูตรทางเคมีคือ NaOH

  • โซดาไฟ มีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว
  • โซดาไฟละลายน้ำได้ดี มีฤทธิ์กัดกร่อน
  • โซดาไฟมีความเป็นด่างสูง
  • โซดาไฟสามารถใช้งานได้ในหลากหลายในอุตสาหกรรมการผลิตหลายๆ อย่าง เช่นสบู่, สารเคมีสำหรับทำความสะอาดต่างๆ เป็นต้น

 

คุณสมบัติของ โซดาไฟ

  1. ลักษณะทางกายภาพของ โซดาไฟ : เป็นของแข็งสีขาว คล้ายสารส้ม สามารถละลายน้ำได้ดี
  2. โซดาไฟไม่มีกลิ่น เมื่อลองดมแล้วจะไม่มีกลิ่น
  3. เป็นด่างแก่ เป็นด่างแก่มาก ตรงข้ามกับความเป็นกรด
  4. ไม่ติดไฟ เมื่อจุดไฟแล้วจะไม่ติดไฟ
  5. ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ=1) 2.13 กรัม/ลบ.ซม.ที่ 30 องศาเซลเซียส
  6. ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน ความชื้น ถ้าอยู่ในความชื้นอาจจะละลายได้ เพราะโซดาไฟดูดความชื้นดีมาก
  7. ทำปฎิกิริยากับกรดแก่ น้ำและความชื้น ทำให้เกิดความร้อน อาจจะปะทุหากสัมผัสน้ำ ในขั้นตอนการละลายโซดาไฟ ควรละลายด้วยความระมัดระวัง

 

ตารางคุณสมบัติของโซดาไฟ

ชื่อตาม IUPAC Sodium hydroxide
ชื่อภาษาไทย โซดาไฟ
ชื่ออื่น Caustic soda Lye
เลขทะเบียน CAS [1310-73-2]
EC number 215-185-5
UN number 1823
RTECS number WB4900000
ChemSpider ID 14114
สูตรเคมี NaOH
มวลต่อหนึ่งโมล 39.997 g/mol
ลักษณะทางกายภาพ White solid เกล็ดขาว
ความหนาแน่น 2.1 g/cm3
จุดหลอมเหลว 318 °C (591 K)
จุดเดือด 1390 °C (1663 K)
ความสามารถละลายได้ ใน น้ำ 111 g/100 ml (20 °C)
MSDS External MSDS
การจำแนกของ EU Corrosive (C)
EU Index 011-002-00-6
NFPA 704
R-phrases R35
S-phrases (S1/2), S26, S37/39, S45
จุดวาบไฟ Non-flammable

โซดาไฟมีกี่ประเภท?

โซดาไฟมีแบบไหนบ้าง 

  • โซดาไฟเกล็ด
  • โซดาไฟน้ำ
  • โซดาไฟไข่มุก

 

โซดาไฟเป็นเกล็ด สีขาวขุ่น

โซดาไฟเกล็ด

เป็นแบบที่พบเจอโดยทั่วไป มีลักษณะเป็นเกล็ด และใช้งานเยอะที่สุด สามารถหาซื้อได้ตามร้านชำ หรือร้านทั่วไป

ขนาดบรรจุโซดาไฟเกล็ด

  • บรรจุ 1 กิโลกรัม / ถุง
  • บรรจุ 25 กิโลกรัม/ ถุง

โซดาไฟเกล็ดถุงละ 1 กิโลกรัม

 

โซดาไฟน้ำ
โซดาไฟน้ำ บรรจุในถังแกลลอน

โซดาไฟน้ำ

เป็นโซดาไฟที่ละลายน้ำแล้ว มีความเข็มข้น 32% หรือ 50%

โซดาไฟน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์ของโซดาไฟที่อยู่ในรูปของเหลวที่ละลายอยู่ในตัวทำละลาย (น้ำ) เป็นโซดาไฟเกล็ดที่นำมาละลายน้ำ  มีฤทธิ์เป็นด่าง ไม่มีกลิ่น แต่สามารถเกิดไอระเหยได้ เมื่อสัมผัสจะลื่นเหมือนสบู่ พบจำหน่ายมากในปัจจุบัน ได้แก่ โซดาไฟ 32% และ50% เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้มากในภาคอุตสาหกรรม

 

 

โซดาไฟไข่มุก
โซดาไฟไข่มุก

โซดาไฟไข่มุก

โซดาไฟก้อน หรือเกล็ด เป็นสถานะปกติของโซดาไฟที่อยู่ในรูปของแข็ง มีลักษณะเป็นผลึกหรือผงสีขาว มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดี เมื่อละลายน้ำจะให้ฤทธิ์เป็นด่างแก่ ใช้มากในภาคอุตสาหกรรม และมีใช้บ้างในภาคครัวเรือน และการเกษตร

ขนาดบรรจุโซดาไฟไข่มุก

  • บรรจุ 1 กิโลกรัม / ถุง
  • บรรจุ 25 กิโลกรัม/ ถุง

 

 

การใช้งาน โซดาไฟ

โซดาไฟ สามารถใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจริงๆแล้ว หลายๆโรงงานก็ใช้ โซดาไฟ ในหลายขั้นตอน เช่น

  • อุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษ และกระดาษ (Pulp and paper) ใช้ในการกำจัดสีหมึกออกจากกระดาษเก่า และใช้ในกระบวนการต้มเยื่อกระดาษ
  • อุตสาหกรรมผลิตเส้นใย (Textiles) ใช้ในกระบวนการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ (เช่น ไนลอน และโพลีเอสเตอร์)
  • อุตสาหกรรมผลิตสบู่และสารซักล้าง (Soap and detergents) ใช้ทำปฏิกิริยาเพื่อเปลี่ยนน้ำมันพืชหรือไขมันจากสัตว์เป็นสบู่
  • อุตสาหกรรมการผลิตอลูมิเนียม (Aluminum production) ใช้เป็นตัวทำละลาย ละลายแร่บ๊อกไซท์(Bauxite) ซึ่งเป็นสินแร่ในการผลิตโลหะอลูมิเนียม
  • การขุดสำรวจหาปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ และการปรับปรุงสมบัติของปิโตรเลียมและก๊าซในกระบวนการผลิต ใช้ในการกำจัดกลิ่นของไฮโดรเจนซัลไฟด์ และสารประกอบซัลไฟด์อื่น ๆ
  • ใช้ผลิตสบู่
  • ใช้ล้างคราบกาวและฉลากในขั้นตอนการรีไซเคิลขวดแก้ว
  • ใช้บำบัดน้ำเสีย โดยใช้ปรับน้ำที่เป็นกรด ให้เป็นกลางมากขึ้น ก่อนจะนำไปใช้หรือนำไปบำบัดต่อไป
  • ใช้ล้างคราบสกปรกต่าง และฆ่าเชื้อโรค เช่น ใช้ล้างตลาดสดในช่วงโควิดที่ผ่านมา เพื่อสุขอนามัย
  • ใช้ล้างทำความสะอาดคอกเลี้ยงสัตว์ เช่น ใช้ล้างคอมวัว หรือหมู ก่อนลงเลี้ยงลูกหมู

 

ข้อมูลเกี่ยวกับกับการใช้งานโซดาไฟอื่นๆ

การใช้โซดาไฟ
การใช้โซดาไฟ

 

การใช้โซดาไฟแก้ท่อตัน หรือ ชักโครกตัน


 

การเลือกซื้อ โซดาไฟ

การเลือกซื้อ โซดาไฟ ต้องพิจารณาสิ่งต่างๆดังนี้ 

  • ความเข้มข้น ความเข้มข้นของโซดาไฟเกล็ดมีความเข้มข้นต่างๆ เช่นโซดาไฟเกล็ดเข้มข้น98% ,99% หรือโซดาไฟน้ำเข้มข้น32% หรือ 50% , เป็นต้น และเลือกว่าเราใช้โซดาไฟในอุตสาหกรรมไหน และใช้ความเข้มข้นที่เท่าไหร่ 
  • โซดาไฟที่ต้องการใช้เป็นโซดาไฟน้ำ หรือ โซดาไฟเกล็ดเพราะการใช้งานจะต่างกัน 
  • ประเทศและโรงงานที่ผลิตโซดาไฟ เพราะโซดาไฟที่ขาย นั้นนำเข้ามาจากหลายประเทศ เช่น จีน,ไทย,อินเดีย,ไต้หวัน เป็นต้น ทั้งนี้เราต้องรู้ว่าเป็นโซดาไฟจากที่ไหน 
  • คุณภาพของโซดาไฟ ในการตัดสินใจเลือกซื้อโซดาไฟ อาจจะต้องขอเอกสารรับรองคุณภาพ เพิ่มเติมจากผู้ขาย

*** หากท่านต้องการนำโซดาไฟ มาใช้งานสามารถใช้วิธีการดังนี้ เพื่อทดสอบคุณภาพของโซดาไฟ

การเลือกซื้อและการทดสอบโซดาไฟ
การเลือกซื้อและการทดสอบโซดาไฟ

คลิป VDO วิธีการเลือกซื้อโซดาไฟ

 

การตรวจสอบโซดาไฟเบื้องต้น

  1.  การสังเกตุด้วยตา การสังเกตุลักษณะทางกายภาพ โซดาไฟเกล็ด เมื่อมองด้วยตาเปล่า จะต้องเป็นเกล็ดแข็ง ไม่จับตัวเป็นก้อน มีสีขาว ไม่มีสิ่งปลอมปน ไ่ม่มีนำหรือหยดน้ำ
  2. เมื่อนำไปละลายในน้ำโซดาไฟจะเกิดความร้อน ต้องมีควันขึ้นมา จะได้น้ำละลายที่ใส ไม่ขุ่น
  3. ควรมีใบรับรองจากผู้ผลิต เช่น เอกสารการทดสอบหรือใบ COA (Certificate of Analysis) ซึ่งผู้ผลิตทุกเจ้าจะมีการทดสอบ และออกใบรับรอง COA อยู่แล้ว

 

การทดสอบโซดาไฟ

ในการเลือกใช้งานโซดาไฟ เราต้องการโซดาไฟที่ได้ประสิทธิภาพและใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมของเรา นอกจากการขอใบรับรองคุณภาพของโซดาไฟ จากผู้ขายแล้ว วิธีการง่ายๆ ในการทดสอบคุณภาพของโซดาไฟด้วยตัวเอง เราก็สามารถทำได้ดังนี้

เตรียมสิ่งของดังนี้

  1. โซดาไฟที่ต้องการทดสอ
  2. น้ำเปล่า
  3. ขวดแก้ว หรือแก้วน้ำ

การทดสอบคือให้ลองนำโซดาไฟไปละลายน้ำโดยละลายในภาชนะที่เป็นแก้ว เช่นขวดแก้วคนให้โซดาไฟละลาย โซดาไฟจะเกิดความร้อน อาจจะมีควันขึ้น และต้องใส ไม่มีสีแดงหากขุ่น หรือหากมีสีแดงถือว่าผิดปกติ วิธีการทดสอบโซดาไฟแบบง่ายๆนี้ สามารถนำไปทดสอบโซดาไฟที่สั่งมาใช้ได้

วิธีการทดสอบโซดาไฟ
วิธีการทดสอบโซดาไฟ

การผลิตโซดาไฟ

การผลิตโซดาไฟ โซดาไฟผลิตอย่างไร โซดาไฟผลิตจากอะไร

– การผลิตโซดาไฟจากเกลือ

– การผลิตโซดาไฟจากปูนขาว

– การผลิตโซดาไฟจากสารประกอบเฟอร์ไรท์

 

  •  การผลิตจากเกลือ เช่น เกลือสมุทร ,เกลือสินเธาว์ ,เกลือแกงและเกลือหิน  ด้วยหลักการอิเล็กโทรไลซิสของเซลล์อิเล็กโทรไลต์ ได้แก่ เมมเบรนเซลล์ (Membrane cell) และไดอะแฟรม เซลล์ (Diaphragm cell) โดยการนำเกลือมาแยกด้วยกระแสไฟฟ้ากระแสตรงทำให้เกิดก๊าซคลอรีน และโซเดียมไอออน จากนั้นโซเดียมไอออนจะทำปฏิกิริยากับน้ำในเซลล์จนเกิดโซเดียมไฮดรอกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจน และก๊าซคลอรีน ดังสมการ 2NaCl + H2O+2e- = H2 + 2NaOH + Cl2

    กระบวนการผลิตโซดาไฟจากเกลือ
     เริ่มต้นจากน้ําเกลือโซเดียมคลอไรด์มาละลายน้ําให้มีความเข้มข้นสูงประมาณ 300 กรัมต่อลิตร แล้วนําไปผ่านกระบวนการตกตะกอน กรอง และแลกเปลี่ยนไอออน (ion exchanger) จนได้น้ําเกลือที่มีความบริสุทธิ์สูง (ultra pure brine) จากนั้นน้ําเกลือบริสุทธิ์ จะถูกส่งเข้าสู่เครื่องแยกน้ําเกลือ ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (electrolyzer) แล้วเกิดการแตกตัว ดังแสดงในรูปที่ 1-2 และรวมตัวเป็นสารใหม่ ได้แก่ ก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซคลอรีน และสารละลายโซดาไฟ
    สารละลายโซดาไฟ ความเข้มข้น 98 เปอร์เซ็นต์โดยน้ําหนัก จากขั้นตอน final concentration ซึ่งมี อุณหภูมิสูง จะถูกลดอุณหภูมิลงด้วยน้ําหล่อเย็น เพื่อทําให้เป็นของแข็ง (เกล็ด) ที่อุปกรณ์ชื่อ flaker จนเกิด การตกผลึกเป็นโซดาไฟชนิดแข็ง (เกล็ด) ความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ําหนัก 
  • การผลิตจากปูนขาว ด้วยการละลายโซดา (NaCO3) ในน้ำปูนขาว (Ca(OH)2) ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ทำให้ได้โซเดียมไฮดรอกไซด์ และแคลเซียมคาร์บอเนต ดังสมการ NaCO3 + Ca(OH)2 = 2NaOH + CaCO3 โดยโซเดียมไฮดรอกไซด์จะระเหยตัวออก และไหลเข้าสู่ท่อเหล็กเย็นเพื่อกลั่น ซึ่งจะมีโซเดียมไฮดรอกไซด์ประมาณ 92%
  • การผลิตจากสารประกอบเฟอร์ไรท์ สารประกอบเฟอร์ไรท์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต คือ NaO.FeO3 จากการเตรียมด้วยสารประกอบเฟอร์ไรท์กับผงโซดาที่อุณหภูมิ 1100 ถึง 1200 องศาเซลเซียส และเข้าสู่กระบวนการชะด้วยน้ำจนได้โซเดียมไฮดรอกไซด์ และตะกอนสารประกอบเฟอร์ไรท์ ดังสมการ NaO.FeO3 + H2O = 2NaOH + FeO3


ข้อควรระวังเมื่อใช้โซดาไฟ

  1. ถ้าสูดดมฝุ่นควันของสารจะทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ อาจเกิดปอดอักเสบ น้ำท่วมปอดได้
  2. หากเข้าตาจะมีฤทธิ์ทำลาย ตั้งแต่ระคายเคือง หรือรุนแรงกระทั่งทำให้ตาบอดได้
  3. หากถูกผิวหนังจะทำให้เกิดการไหม้จนเป็นแผลลึก
  4. หากรับประทานเข้าไปจะเกิดการไหม้ในปาก ลำคอ และทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หมดสติ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ที่เคยได้รับสารเข้าไปทางปาก อาจมีการพัฒนากลายเป็นมะเร็งในภายหลัง 12-42 ปี หลังจากกินเข้าไป

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

– กรณีโซดาไฟกัดผิวหนัง

  1. หากกัดผิวหนัง หากโซดาไฟกัดผิวหนัง  โซดาไฟ มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงกัดผิวหนังได้ ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งมีฤทธิ์มาก อันตรายเฉียบพลัน เมื่อถูกผิวหนังให้รีบล้างออกโดยให้น้ำไหลผ่านบริเวณที่ถูกสารอย่างน้อย 30 นาที พร้อมกับถอดชุดอุปกรณ์ต่างๆที่เปื้อนสารออกแล้วรีบนำส่งแพทย์

 

– กรณีโซดาไฟเข้าตา

  1. หากโซดาไฟเข้าตา หากเข้าตาจะมีฤทธิ์ทำลายตั้งแต่ระคายเคืองหรือรุนแรงกระทั่งทำให้ตาบอดได้ หากถูกผิวหนังจะทำให้เกิดการไหม้จนเป็นแผลลึก หากเข้าตารีบล้างตาด้วยน้ำอุ่นโดยค่อย ๆ ให้น้ำไหลผ่านตา 30 นาที เปิดเปลือกตาไว้ อย่าให้น้ำล้างตาไหลเข้าตาข้างที่ไม่เป็นอะไร

 

– กรณีกินโซดาไฟ

  1. หากกินโซดาไฟ หากรับประทานเข้าไปจะเกิดการไหม้ในปาก ลำคอ และทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ที่เคยได้รับสารเข้าไปทางปาก อาจมีการพัฒนากลายเป็นมะเร็งในภายหลัง 12-42 ปี หลังจากกินเข้าไป

*** ห้ามทำให้อาเจียน

 

– กรณีหายใจสูดควันจากโซดาไฟ

  1. ถ้าหายใจเข้าไปให้รีบย้ายผู้ป่วยออกมา ให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์แล้วรีบนำส่งแพทย์

 

 


การเก็บรักษาโซดาไฟ

  • เก็บในโกดังที่ปิด แห้ง ห่างไกลจากแหล่งน้ำ อุณหภูมิของโกดังไม่ร้อนเกินไป อย่าให้ถูกความชื้น
  • จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกัน อยู่ใกล้ๆแหล่งเก็บโซดาไฟ
  • ปกติโซดาไฟจะบรรจุในถุงพลาสติก และมีถุงกระสอบบรรจุอีกชั้น
  • อย่าเก็บไว้ใกล้กับสารคเมีประเภทกรดและสารติดไฟ
  • เวลาใช้โซดาไฟให้สวมหน้ากาก ชนิดเต็มหน้า สวมถุงมือ รองเท้ายาง เสื้อคลุม
  • หลังใช้งานโซดาไฟ ทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังจากการใช้งาน ล้างมือหรือส่วนที่สัมผัสกับโซดาไฟ หรืออาบน้ำชำระล้างร่างกาย

 

การเก็บโซดาไฟในบ้านเรือน

  • เก็บในภาชนะที่กันน้ำปิดสนิทมิดชิดในที่เย็น และอากาศถ่ายเท 
  • เก็บในถุงที่ปิดสนิท ไม่ให้อากาศเข้า
  • เก็บให้ห่างจากความชื้น
  • เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
การใช้งานโซดาไฟ
การใช้งานโซดาไฟ

โซดาไฟที่มีจำหน่ายในท้องตลาด

โซดาไฟแบบต่างๆ

ประเทศที่ผลิต ชนิด ความเข้มข้น
โซดาไฟจีน จีน เกล็ด 99%
โซดาไฟอาซาฮี ไทย เกล็ด 98%
โซดาไฟอาซาฮี ไทย ไข่มุก 99%
โซดาไฟไต้หวัน ไต้หวัน เกล็ด 98%
โซดาไฟไต้หวัน ไต้หวัน ไข่มุก 99%
โซดาไฟอินเดีย อินเดีย เกล็ด 99%

โซดาไฟจีน

  • เป็นโซดาไฟแบบเกล็ด ที่ผลิตในประเทศจีน มีความเข้มข้น 99% ใช้งานง่าย ราคาถูก
  • บรรจุในถุงละ 25 กิโลกรัม

 

 

 

 

 

 

 

 

โซดาไฟอาซาฮี (ไทย)

  • (ผลิตในประเทศไทย) เป็นโซดาไฟที่คุณภาพดี ใช้งานได้ดีในโรงงานอุตสาหกรรม
  • โซดาไฟอาซาฮี มีทั้งแบบ เกล็ด และไข่มุก
  • บรรจุในถุงละ 25 กิโลกรัม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โซดาไฟไต้หวัน

  • ผลิตในประเทศไต้หวัน
  • มีทั้งแบบเกล็ดและไข่มุก
  • บรรจุในถุงละ 25 กิโลกรัม

โซดาไฟอินเดีย

  • ผลิตในประเทศอินเดีย
  • มีแบบเกล็ด
  • บรรจุในถุงละ 25 กิโลกรัม

 


โซดาไฟแบบกระสอบ
โซดาไฟแบบกระสอบ

 


แชร์ให้เพื่อน :