โซดาไฟกับอุตสาหกรรม การผลิตสบู่
การผลิตสบู่ด้วยโซดาไฟ
อุตสาหกรรมการผลิตสบู่และการใช้โซดาไฟ โซดาไฟนั้นใช้งานจำนวนมากในอุตสาหกรรมการผลิตสบู่ อย่างที่หลายคนคงเคยได้ยินมาแล้วว่า สบู่นั้นคือไขมันสัตว์ หรือไขมันพืช แต่ในการผลิตสบู่นั้นใช้โซดาไฟเป็นส่วนสำคัญในการผลิต การใช้โซดาไฟทำสบู่ คือ การผสมโซดาไฟละลายน้ำกับไขมัน จนเกิดปฏิกิริยาเคมีที่เรียกว่า ซาพอนนิฟิเคชัน และของเหลวแข็งตัวเป็นก้อน และนำไปใช้ต่อไป
- สบู่ คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดผิวกาย โดยสบู่ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างน้ำมันหรือไขมันจากพืชหรือสัตว์และ ด่าง (โซดาไฟ)
- สบู่มีประโยชน์ในการขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกจากร่างกาย
- สบู่มีหลายประเภท เช่น สบู่แข็ง สบู่เหลว และสบู่สมุนไพร
ในที่นี่เราจะพูดถึงการผลิตสูบ่ โดยใช้โซดาไฟเป็นส่วนประกอบ และขั้นตอนการทำสบู่ใช้ ด้วยตัวเอง
สบู่ผลิตขึ้นจากส่วนผสมพื้นฐาน 3 อย่าง คือ
- น้ำสะอาด
- ด่าง(โซดาไฟ) สารละลายโซดาไฟ หรือโซดาไฟน้ำ
- ไขมัน ไขมันพืช หรือไขมันสัตว์ เมื่อด่างผสมกับน้ำ เป็นสารละลายด่างถูกนำไปผสมกับไขมัน ได้ผลผลิตเป็นสบู่ธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนผสมของสบู่
การทำสบู่ล้างหน้าสูตรถนอมผิวและบำรุงผิว สำหรับใช้เอง
ส่วนผสม
- น้ำมันปาล์ม 150 กรัม
- น้ำมันมะพร้าว 125 กรัม
- น้ำมันมะกอก 100 กรัม
- น้ำมันโจโจ้บาร์ 90 กรัม
- น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 35 กรัม
- โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) 66.31 กรัม
- น้ำกลั่น 190 กรัม(SF 3%)
การเตรียมน้ำด่าง หรือน้ำโซดาไฟ
ก่อนทำการทำน้ำโซดาไฟควรใส่แว่นตา ถุงมือ ถ้ามีผ้าปิดจมูกปาก เพื่อป้องกันฝุ่นควันจากโซดาไฟ
- ชั่งน้ำกลั่น 190 กรัม
- ชั่งโซดาไฟ 66.31 กรัม
- ค่อยๆผสมโซดาไฟ โดยค่อย ๆ เทโซดาไฟลงในน้ำ คนจนละลายหมด (ห้ามเทน้ำลงในโซดาไฟ ให้เทโซดาไฟลงในน้ำเท่านั้น)
ระหว่างนี้น้ำด่างจะมีอุณหภูมิที่สูง เกิความร้อนและควันขึ้น ตั้งไว้ให้อุณหภูมิลดลง เพื่อนไปใช้ในขั้นตอนต่อไป
จัดเตรียมน้ำมันทั้งหมด และเมื่อน้ำด่างมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิของน้ำมัน ให้ผสมส่วนผสมอื่นๆดังนี้
- เริ่มเทน้ำด่างโซดาไฟ ลงน้ำมันได้เลย
- กวนไปเรื่อย ๆ กวนกันนานเลยละ ถ้ามีอุปกรณ์ช่วยอย่าง Hand Blender ก็จุ่มลงปั่นได้เลย ประหยัดแรงไปได้เยอะ
- ปั่นจนเป็นเนื้อครีมแล้ว ก็ใส่น้ำหอมลงไปผสม
- ใส่ผงสมุนไพร ลงไปผสม
- กวนต่อจนน้ำหอมและผงสมุนไพรเข้ากันดี แล้วเทลงแม่พิมพ์
- ปิดฝา แล้วเอาผ้าขนหนูมาห่อเอาไว้ พักทิ้งจนแข็งตัว ประมาณ 12-24 ชั่วโมง หรือรอจนกว่าสบู่จะแข็งพอที่จะถอดจากแม่พิมพ์ได้
- ตัดตามขนาดที่เราต้องการได้เลย และตากสบู่ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ จึงนำสบู่มาใช้ได้
ข้อควรระวังในการผลิตสบู่
- อย่าเทน้ำลงในด่าง(โซดาไฟ) อาจจะทำให้เกิดการประทุหรือระเบิดได้
- อย่าใส่โซดาไฟไว้ในภาชนะที่เป็นสังกะสีหรืออลูมิเนียม
- อย่าสูดไอระเหยของโซดาไฟ ควรทำการผลิตสบู่ในที่ๆอากาศถ่ายเทได้ดี
จะเห็นได้ว่า สิ่งสำคัญในการผลิตสบู่คือ ไขมันสัตว์ ไขมันพืช และโซดาไฟ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในการทำสบู่นั้นเอง